ปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน (Duplicate Content) ในโลกของ SEO และวิธีที่ Canonical URL เข้ามาช่วย
ต้องบอกก่อนว่า…ใครที่เคยทำเว็บไซต์มานานคงไม่มีใครไม่เคยเจอกับปัญหา “เนื้อหาซ้ำ” หรือที่เรียกกันในวงการ SEO ว่า Duplicate Content มันไม่ใช่แค่เรื่องของการก็อปวางบทความจากเว็บอื่นอย่างเดียว แต่บางทีแค่โครงสร้าง URL ผิดนิดเดียว หรือมีหลายหน้าแสดงเนื้อหาเดียวกันโดยไม่ได้ตั้งใจ Google ก็อาจจะตีว่าเรามีเนื้อหาซ้ำกันเองแล้ว
ผมเองก็เคยพลาดช่วงเริ่มทำเว็บใหม่ ๆ เอาหน้าสินค้าเดียวกันไปโปรโมตในหลาย ๆ หมวดหมู่ เพราะอยากให้ผู้ใช้หาเจอง่ายขึ้น สุดท้ายโดน Google ลดอันดับ เพราะมันคิดว่าเรากำลังพยายาม “ปั่นเนื้อหา” ทั้งที่ตั้งใจดีแท้ ๆ
แล้ว Canonical URL คืออะไร?
มันคือวิธีหนึ่งที่ Google เสนอให้บอกว่า “หน้าไหนคือของจริง” ถ้าในชีวิตจริงก็คงเหมือนเราชี้ไปที่ต้นฉบับแล้วพูดว่า “เฮ้ย! นี่นะ ตัวแม่! อย่าสับสนกับอันอื่น” ซึ่งการใส่ canonical tag เข้าไปใน <head>
ของหน้า HTML นั้นจะช่วยให้ Search Engine รู้ว่าให้จัดอันดับ URL ไหนเป็นหลัก
ตัวอย่าง:
ถ้าเว็บคุณมีหน้าที่แสดงเนื้อหาเดียวกันผ่านหลาย URL เช่น:
example.com/product?ref=facebook
example.com/product?ref=twitter
example.com/product
คุณควรใส่ canonical URL ให้ชัดว่า example.com/product
คือหน้าหลัก โดยใส่ใน <head>
แบบนี้:
<link rel="canonical" href="https://example.com/product">
ทำไมต้องใช้ Canonical URL?
ลองนึกภาพเว็บที่มีบทความเดียวกันแต่ถูกเข้าถึงผ่าน 3-4 ลิงก์ต่างกัน เช่น ผ่านหมวดหมู่, แท็ก, หน้าโปรโมชัน หรือแม้แต่ URL ที่ติดพารามิเตอร์จากการแชร์ Facebook ถ้าไม่จัดการให้ดี Google จะคิดว่าคุณพยายาม spam คอนเทนต์ หรือสร้างหน้าซ้ำเพื่อเก็บอันดับ
สิ่งที่ Canonical URL ช่วยได้จริง
- ลดปัญหา SEO ภายในเว็บที่มีโครงสร้างซับซ้อน
- บอกให้ Google เข้าใจว่าหน้าไหนคือหน้า “ตัวจริง”
- ป้องกันการแบ่งแรงอันดับ (Ranking Power) ไปหลาย URL
- เพิ่มความมั่นใจในการจัดอันดับหน้าเว็บสำคัญ
จากประสบการณ์ตรง…
เว็บไซต์หนึ่งที่ผมดูแลอยู่ เคยเจอปัญหาติดดัชนีหลาย URL สำหรับหน้าเดียวกัน ซึ่งเกิดจากระบบ CMS สร้าง permalink ซ้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ พอลองวิเคราะห์แล้วพบว่า หน้าเดียวมีถึง 8 URLs ที่แตกต่างกันเล็กน้อยแต่มีเนื้อหาเดียวกันแบบเป๊ะ ๆ
หลังจากใส่ canonical tag ให้ทุกหน้าชี้กลับมาที่ URL หลัก แล้วส่ง index ใหม่ไปที่ Google Search Console ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ อันดับเริ่มนิ่งและ Traffic ค่อย ๆ กลับมา ไม่ต้องไล่ลบ URL ทีละตัวให้วุ่นวายอีกด้วย
สรุปแบบชาวบ้าน ๆ
Canonical URL ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่มันคือการ “ส่งสัญญาณ” ที่ถูกต้องไปยัง Google ว่าเว็บเราควรจัดอันดับที่ไหน ควรให้ความสำคัญกับ URL ไหน อย่ามองข้ามมันโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะถ้าคุณมีเว็บใหญ่ เว็บข่าว หรือ eCommerce ที่มีหมวดซ้อนกันหลายชั้น
บางครั้ง SEO ที่ดีไม่ใช่แค่เขียนบทความปัง ๆ แต่เป็นการจัดโครงสร้างให้ Google เข้าใจเว็บเราง่ายที่สุด และ canonical นี่แหละคือพระเอกเงาที่ช่วยจัดระเบียบให้ทุกอย่างเข้าที่