สำหรับสายเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่น Free Fire บนมือถือ สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือปัญหาแบตหมดไว เครื่องร้อน และบางครั้งก็เกิดอาการกระตุกขณะเล่น ยิ่งหากเล่นเป็นเวลานาน หรือต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่อเนื่อง ปัญหาเหล่านี้ยิ่งชัดเจนขึ้น บทความนี้จึงรวบรวม 7 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยคุณประหยัดแบต เล่นได้นาน และไม่ทำให้เครื่องร้อนจนต้องหยุดกลางคัน
1. ลดความสว่างหน้าจอ
หน้าจอมือถือเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุด หากคุณเล่นในที่ร่มหรือแสงไม่จ้า ควรลดความสว่างลงเหลือประมาณ 40-60% จะช่วยยืดอายุแบตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อการมองเห็นศัตรูในเกม
2. ปิดเสียงหรือใช้หูฟัง
การเปิดเสียงผ่านลำโพงจะใช้พลังงานมากกว่าการใช้หูฟัง เพราะลำโพงใช้พลังงานไฟจากระบบสูงขึ้น หากคุณเล่นในที่ส่วนตัว การเสียบหูฟังยังช่วยให้คุณได้ยินเสียงฝีเท้าหรือการเคลื่อนไหวในเกมได้ชัดเจนขึ้น
3. ปรับกราฟิกให้อยู่ในระดับต่ำ
Free Fire ให้คุณเลือกคุณภาพกราฟิกได้หลายระดับ หากคุณไม่ได้ต้องการภาพสวยระดับสูง แนะนำให้ปรับไว้ที่ “เรียบง่าย” จะช่วยลดการใช้ทรัพยากรเครื่อง และแบตก็จะหมดช้าลงอย่างชัดเจน
4. ปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น
ก่อนเล่นเกม ควรปิด Wi-Fi (ถ้าไม่ได้ใช้), บลูทูธ, GPS และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ระบบทำงานหนักเกินความจำเป็น รวมถึงปิดแอปพื้นหลังที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น Facebook, LINE, หรือ YouTube
5. เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Power Saving)
มือถือหลายรุ่นมีโหมด “ประหยัดพลังงาน” ซึ่งสามารถเปิดได้แม้ขณะเล่นเกม ระบบจะจัดการพลังงานให้เหมาะสม และลดการทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น ทำให้เล่นได้นานขึ้นโดยไม่ลดประสิทธิภาพเกมมากนัก
6. เล่นในห้องที่มีอากาศถ่ายเท
หากเครื่องร้อนจากอุณหภูมิภายนอก จะทำให้แบตหมดเร็วและเกมกระตุกง่ายขึ้น การเล่นในห้องที่เย็นหรือมีพัดลมเป่า จะช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องให้คงที่ และช่วยยืดอายุแบตเตอรี่โดยรวมได้ด้วย
7. เลือกเว็บเติมเกมที่ไม่กินทรัพยากรเครื่อง
ผู้เล่นหลายคนอาจไม่รู้ว่า การเข้าเว็บเติมเกมที่โหลดช้า มีสคริปต์เยอะ หรือโฆษณารก อาจทำให้เครื่องทำงานหนักโดยไม่รู้ตัว หากคุณต้องการเติมเกมระหว่างเล่น ควรเลือกใช้ เติมฟีฟาย ลื่นไหล เพราะหน้าเว็บโหลดไว รองรับมือถือทุกรุ่น ไม่กินแบต และใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
สรุป
การเล่น Free Fire ให้ได้นานและลื่นไหลโดยไม่ทำให้เครื่องร้อนหรือแบตหมดไว ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ ในการตั้งค่า และเลือกใช้แอปหรือเว็บที่เหมาะสม ก็จะสามารถสนุกกับเกมได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่อีกต่อไป
